วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2559

COCKTAIL

COCKTAIL

ช่วงแรกของวงและอัลบั้มแรก ค็อกเทล (2545–2546)

ค็อกเทลเริ่มต้นด้วยกลุ่มเด็กผู้ชายที่เล่นดนตรีมาด้วยกันตั้งแต่สมัยมัธยมศึกษาตอนปลายจากวง Fi-Fa และ Forte[1] แรกเริ่มคำว่า ค็อกเทล นั้นไม่ใช่ชื่อวง แต่เป็นชื่อพรอเจกต์และชื่ออัลบั้มที่เสนอขึ้นโดยบู๊ วิศรุต เตชะวรงค์ เนื่องจากเป็นชื่อที่มีความหมายของการผสมกันของเครื่องดื่ม เปรียบเหมือนกับงานดนตรีของวงที่เป็นการรวมตัวของนักเรียนในโรงเรียนเตรียมอุดม และด้วยอีกเหตุหนึ่ง คือ ข้อสอบภาษาอังกฤษที่โรงเรียนออกในช่วงนั้น ออกเกี่ยวกับเรื่องค็อกเทลด้วย โดยการออกอัลบั้มวางขายกันในโรงเรียนเมื่อปี พ.ศ. 2545 และเริ่มสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น กระทั่งออกอัลบั้มแรกชื่อ ค็อกเทล ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับวงได้สำเร็จ
อัลบั้มแรกสุดของค็อกเทล ซึ่งจุดประสงค์ในการออกจำหน่ายอัลบั้มนี้แต่แรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงเพื่อการจัดจำหน่ายภายในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเท่านั้น แต่ต่อมาได้มีการวางจำหน่ายในร้านดีเจสยาม และ น้องท่าพระจันทร์ เป็นอัลบั้มที่เริ่มทำให้วงเป็นที่รู้จักในหมู่นักเรียนมัธยมปลาย และสร้างกลุ่มแฟนที่สนใจผลงานขึ้นมาได้บ้างในเวลานั้น อัลบั้มนี้มีเพลงที่เป็นที่รู้จักอย่าง "ซ้ำซ้อน" "หลบหน้า" และ "เศษซากความฝัน" ลักษณะของอัลบั้มใกล้เคียงความเป็นอัลบั้มรวบรวมมากกว่างานของค็อกเทลวงเดียว กล่าวคือเป็นการรวมตัวกันของนักดนตรีมัธยมปลายภายในโรงเรียนเตรียมอุดมหลาย ๆ วง โดยเพลง "หลบหน้า" และ "Nobody" เป็นเสียงร้องของ บู๊ วิศรุต เตชะวรงค์ ซึ่งเป็นนักร้องของ Skykick Ranger ในปัจจุบัน

อัลบั้ม 36,000 ไมลส์อะเวย์ฟรอมเฮียร์ (2546–2549)

หลังจากนั้นค็อกเทลก็ได้ออกอีพี อินไซด์ (Inside) ในปี พ.ศ. 2546 เพื่อรองรับความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากอัลบั้มแรก สมาชิกหลายคนในช่วงอัลบั้มแรกได้แยกย้ายกันไปศึกษาต่อกันในระดับอุดมศึกษา แต่สมาชิกที่ยังเหลืออยู่ 4 คน ได้แก่ โอม ปัณฑพล ประสารราชกิจ (ร้องนำ) บู๊ วิศรุต เตชะวรงค์ (กลอง) หลง วิทวัศ หลงชมบุญ (เบส) และ ธิป ธิปรัชต์ โชติบุตร (กีตาร์) ได้ตัดสินใจรวมตัวกันเป็นวง โดยตั้งใจจะใช้ชื่อว่า ค็อกเทล ต่อไป อย่างไรก็ตามแนวเพลงในอัลบั้มนี้ก็ยังไม่มีมีการกำหนดตายตัวแต่อย่างใด พวกเขาเริ่มต้นทำงานเพลงอัลบั้มที่ 2 ต่อไป โดยเริ่มแต่งเพลงในช่วงปลายปี พ.ศ. 2545 จนถึงกลางปี พ.ศ. 2547 และเริ่มบันทึกเสียงตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2547 ช่วงนั้น ธิป มือกีตาร์ ได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ จึงต้องหามือกีตาร์คนใหม่ ซึ่งได้ เอ็กซ์ ปาริวัฒน์ สุวรรณชัย เข้ามาแทน
ต่อมาค็อกเทลได้ออกจำหน่ายอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ในชื่อ 36,000 ไมลส์อะเวย์ฟรอมเฮียร์ ในปี พ.ศ. 2547 เป็นอัลบั้มที่แนวทางของวงเปลี่ยนแปลงมาเป็นร็อกอย่างเต็มตัว แต่เนื่องจากเพลงในอัลบั้มนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางแต่ไม่มีการโปรโมตวงดนตรีเท่าที่ควร ทำให้เกิดลักษณะของการที่เพลงเป็นที่รู้จักมากกว่าวง

อัลบั้ม อินเดอะเมโมรีออฟซัมเมอร์โรมานซ์ (2549–2553)

หลังจากอัลบั้มชุด 36,000 ไมลส์อะเวย์ฟรอมเฮียร์ ค็อกเทลได้มีสมาชิกใหม่อีก 2 คน คือ อายุ จารุบูรณะ อดีตมือกลองจาก Saliva Bastard และ เชา ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย พร้อมกับทำผลงานอีพี Final Light ในปี พ.ศ. 2550 และสตูดิโออัลบั้มชุดใหม่ในชื่อ อินเดอะเมโมรีออฟซัมเมอร์โรมานซ์ (In the Memory of Summer Romance) โดยได้ใช้เวลาถึง 3 ปี อัลบั้มชุดนี้ออกจำหน่ายในปี พ.ศ. 2551 มีแนวเพลงที่แตกต่างจากร็อกในอัลบั้มของค็อกเทลชุดก่อน มีเพลง "พันธนาการ" ที่เป็นดนตรีสังเคราะห์ที่ผสมผสานกับดนตรีร็อก นอกจากนี้อัลบั้มนี้ ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสีสันอวอร์ด ประจำปี 2551 สาขาเพลงบรรเลงยอดเยี่ยมจากบทเพลง "ดาราดับแสง" เวอร์ชันบรรเลงอีกด้วย ต่อมาค็อกเทลจึงได้เซ็นสัญญากับสังกัดจีนี่เรคคอร์ดส[4]

อัลบัม เท็นเทาซันด์เทียส์ (2553–2555)

ดูบทความหลักที่: เท็นเทาซันด์เทียส์
ในปี พ.ศ. 2553 ค็อกเทลได้ออกอีพีในชื่อ วัย ในอัลบั้มประกอบด้วยเพลง "วัย" ในเวอร์ชันต่างๆ ซึ่งอัลบั้มนี้ผลิตจำกัด 1,000 แผ่นเท่านั้น วางจำหน่ายวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ทุกแผ่นหักเป็นค่าทำบุญหนังสือเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดโพธ์ศรี จังหวัดสิงห์บุรี[5]
ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 ค็อกเทลได้ออกสตูดิโออัลบั้มที่มีชื่อว่า เท็นเทาซันด์เทียส์ ชื่อของอัลบั้มมีที่มาจากชื่อเพลง "ฉันร้องไห้เป็นหมื่นครั้งเพื่อมาเจอเธอ" และงานในอัลบั้มนี้ ถึงแม้ว่าค็อกเทลจะมีสมาชิกเพียง 3 คน แต่ในอัลบั้มมีนักดนตรีเข้าร่วมบันทึกเสียงด้วยถึงกว่า 40 ชีวิต เพื่อสร้างสีสันผสมผสานแนวดนตรีให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยทำการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีสดทุกชิ้น และเพลง "วัย" ก็ได้บรรจุอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย

อัลบั้ม เดอะลอดส์ออฟมิสเซอรี (2555–ปัจจุบัน)

ดูบทความหลักที่: เดอะลอดส์ออฟมิสเซอรี
ในอัลบั้มนี้ เดอะลอดส์ออฟมิสเซอรี เป็นการกลับมาของมือเบส คือ ปาร์ค เกริกเกียรติ สว่างวงศ์ ส่วนอายุ จารุบูรณะ ได้ขอลาออกไปทำตามคำสัญญากับเพื่อนมัธยมที่จะสร้างวงดนตรีด้วยกัน จึงได้ฟิลิปส์ เปรมสิริกรณ์ได้เข้ามาทำหน้าที่มือกลอง เปิดตัวด้วยเพลง "คุกเข่า" มีเพลง "โปรดเถิดรัก" เป็นเพลงแรกที่ได้ร่วมงานกับวงออเคสตราเต็มวง และเป็นเพลงที่ตัดออกมาจากประโยคเล็กๆ ในเพลง "เธอทำให้ฉันเสียใจ" ในสตูดิโออัลบั้มชุดที่แล้วของวง เท็นเทาซันด์เทียส์ และนำมาขยายความ และเป็นเพลงแรกที่ทำมิวสิกวิดีโอเนื้อเรื่อง และเพลง "เธอ" เป็นการกลับมากำกับมิวสิกวิดีโอครั้งแรกในรอบ 20 ปีของ นิค วิเชียร ฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการของค่าย โดยได้ภรรยาของโอมมาร่วมแต่งเพลงนี้อีกด้วย[6]
นอกจากนี้ ยังได้มีการทำผลงานเพลงกับศิลปินอื่น โดยในปี พ.ศ. 2556 โอมได้ทำผลงานเพลง "ทางที่เลือก" ร่วมกับ ต้า พาราด็อกซ์ และแอร์ เดอะมูสส์ รวมถึงในปี พ.ศ. 2557 ค็อกเทลได้ทำผลงานเพลงคัฟเวอร์ "ข้าน้อยสมควรตาย" ของบิ๊กแอส เพื่อนำไปประกอบภาพยนตร์ ตีสาม คืนสาม 3D และเพลง "หนังสือรุ่น" นำไปประกอบละครซี่รี่ย์ เพื่อนเฮี้ยน..โรงเรียนหลอน ต่อมาในปี พ.ศ. 2558 วงได้ออกซิงเกิลที่ห้าของอัลบั้มด้วยเพลง "คู่ชีวิต" และมีกำหนดการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของค็อกเทล เดอะฮาร์ตเลสไลฟ์ ขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558 จัดที่เมืองไทย จีเอ็มเอ็มไลฟ์เฮาส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น